ติดตั้งระบบสปริงเกอร์ รดน้ำต้นไม้ ควรรู้อะไรบ้าง


บทความ ติดตั้งระบบสปริงเกอร์ รดน้ำต้นไม้ ควรรู้อะไรบ้าง 1722

เพื่อให้ระบบรดน้ำเหมาะสมกับสวนและต้นไม้ของเรา ควรต้องทราบข้อมูลเบื้องต้นการของติดตั้งสปริงเกอร์ก่อน วันนี้ QRwater จะมาเล่าให้ฟังกัน

สปริงเกอร์ (SPRINKLER) คืออะไร ?

สปริงเกอร์ก็คือระบบรดน้ำแบบหนึ่งที่มีการบีบอัดฉีดน้ำให้แตกเป็นสาย หรือ หมุนเหวี่ยงไปรอบบริเวณพื้นที่ปลูกน้ำต้นไม้ หรือช่วยฉีดน้ำเพื่อลดอุณหภูมิของพื้นที่ให้เย็นลงให้นั่นเอง

วางสปริงเกอร์อย่างไรดี ? 

ขั้นตอนง่ายๆในการวางตำแหน่งสปริงเกอร์ มีดังนี้

  • แบ่งพื้นที่ในสวนออกเป็นส่วนๆเพื่อเลือกหัวสปริงเกอร์ : โดยแบ่งพื้นที่ง่ายๆตามประเภทของต้นไม้ที่ปลูก เช่น พื้นที่สนามหญ้า พื้นที่ปลูกไม่พุ่ม พื้นที่ปลูกต้นไม้ใหญ่ พื้นที่แปลงปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
  • เลือกหัวสปริงเกอร์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ในสวนของคุณ โดยเลือกจากระยะฉีดน้ำ รัศมีการให้น้ำของหัวสปริงเกอร์ ตามหัวข้อในลำดับถัดไป
  • สปริงเกอร์มีกี่ประเภท และเหมาะกับสวนแบบไหน?

QRwater

 

จริงๆ แล้วเราสามารถแบ่งชนิดของ สปริงเกอร์ ได้หลายประเภทตามการใช้งาน ถ้าหากแบ่งตามลักษณะของการจ่ายน้ำจะแบ่งได้ดังนี้

หัวสปริงเกอร์แบบต่างๆ

มินิสปริงเกอร์ MiniSprinkler

หัวมินิสปริงเกอร์ชนิดนี้จะจ่ายน้ำในอัตราที่ไม่สูงมากนัก จะมีทั้งแบบน้ำหยด และแบบหัวเหวี่ยงขนาดเล็ก รัศมีการจ่ายน้ำจะไม่มาก ไม่เกิน 2-3 เมตร หัวจ่ายน้ำแบบนี้จะ เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กๆหรือไม้พุ่ม
QRwater

QRwater
คลิกที่นี่เพื่อดู VDO การทำงาน

 

หัวน้ำหยด

ส่วนมากจะใช้เพื่อให้รดน้ำในพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น กระถาง หรือ ที่โคนต้นไม้เล็ก เพื่อให้น้ำไม่กระจายไกลจากโคนต้น หรือออกนอกพื้นที่ทำให้เกิดการเลอะได้

QRwater
คลิกที่นี่เพื่อดู VDO การทำงาน

 

สเปรย์ spray (แบบ popup)

หัวสเปรย์นี้ มีลักษณะการจ่ายน้ำซึ่งเป็นแบบรูปพัด รัศมีการจ่ายน้ำ 2-6 เมตร เหมาะกับบ้านที่มีขนาดพื้นที่รดน้ำไม่กว้างไม่เกิน 6 เมตรQRwater
คลิกที่นี่เพื่อดู VDO การทำงาน

 

โรเตอร์ rotor

หัวโรเตเตอร์นี้ มีลักษณะการจ่ายน้ำฉีดออกจากหัวจ่ายและหมุนรอบตัวหรือองศาที่กำหนดไว้ รัศมีการฉีดน้ำตั้งแต่ 6 เมตรขึ้นไปถึง 15-20 เมตร เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่เช่นสนามหญ้า สวนสาธารณะ เป็นต้น
หรือหากแบ่งตามลักษณะการติดตั้ง

QRwater
คลิกเพื่อดู VDO การทำงาน

 

ประเภทของหัวสปริงเกอร์ มี 2 ชนิด

1. ฝังใต้ดิน (under ground)

ที่นิยมในไทยคือหัวแบบป๊อบอัพ  (pop-up)
หัวจ่ายน้ำแบบนี้จะถูกฝังอยู่ใต้ดินจะโผล่ขึ้นมาเฉพาะเวลาที่ทำงานเท่านั้น โดยปกติจะติดตั้งบริเวณสนามหญ้า และเป็นพื้นที่โล่ง เพื่อความสวยงาม

QRwater

 

2. อยู่เหนือดิน (above ground)

ได้แก่แบบที่ติดตั้งอยู่เหนือดิน เช่น มินิสเปรย์ หัวพ่นหมอก pop-up แบบที่ติดตั้งอยู่บน riser แบบนี้จะติดตั้งบริเวณไม้พุ่มและต้องอยู่ในจุดที่หลบสายตาผู้พบเห็น

QRwater

 

ข้อดี/ข้อเสียของสปริงเกอร์ ?

ข้อดี

  • ระบบรดน้ำสปริงเกลอร์ตั้งเวลารดน้ำได้ สะดวกสบายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลสวนเอง
  • รดน้ำได้เป็นวงกว้าง ประหยัดแรงและเวลา
  • มีหลากหลายรูปแบบ เลือกได้ตามความเหมาะสมกับรูปแบบและประเภทของการใช้งาน
  • ประหยัดน้ำเนื่องจากสามารถคุมและกำหนดเวลา ปริมาณในการรดน้ำต้นไม้ได้
  • ช่วยทำให้พื้นที่บริเวณสวนของคุณมีอุณหภูมิเย็นขึ้น เพิ่มความชื้นในอากาศได้ดี

ข้อเสีย

  • งบประมาณในการติดตั้งสูงกว่าระบบรดน้ำด้วยสายยางแบบปกติ
  • ต้องมีแรงดันน้ำที่เพียงพอ เพื่อประสิทธิภาพที่สมบูรณ์ในการทำงานของระบบสปริงเกลอร์
  • ต้องจัดการแบ่งพื้นที่และวางตำแหน่งสปริงเกลอร์ในการรดน้ำตั้งแต่ขั้นตอนในการออกแบบสวน จะทำให้ระบบทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ


ระบบสปริงเกอร์ประกอบด้วยอะไรบ้าง ?


ระบบสปริงเกลอร์รดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ มีองค์ประกอบของอุปกรณ์หลักๆดังนี้

  • หัวจ่ายน้ำ (Sprinkler Head) มีหลายชนิด ถ้าแบ่งตามลักษณะการฉีดน้ำ จะมีแบบ spray head,rotor หรือแบบน้ำหยดทั้งนี้การเลือกใช้งานจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะของพื้นที่ ชนิดของดินและพืช
  • วาล์วไฟฟ้า (Solenoid Valve) ใช้ไฟฟ้าความต่างศักย์ต่ำ (24 โวลท์) จากคอนโทรลเลอร์ในการสั่งการให้วาล์วเปิดปิด
  • คอนโทรลเลอร์ (Controller) เป็นอุปกรณ์ที่สั่งให้วาล์วไฟฟ้าเปิดปิดตามเวลาและระยะเวลาที่กำหนดไว้
  • เครื่องสูบน้ำ (Pump) ระบบสปริงเกอร์ใช้แรงดันน้ำค่อนข้างสูงจึงจำเป็นจะต้องมี เครื่องสูบน้ำที่เหมาะสมกับระบบโดยเฉพาะ

ติดต่อเรา?

โทร O933-999-345 หรือ LINE ID: @994xjbnl